กระทรวงเกษตร และพัฒนาชนบทของเวียดนาม เตรียมแผนส่งเสริมการรับรองฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้ง (กุ้งกุลาดำ และกุ้งขาว) ฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาสวาย (Tra fish) และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ในขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมประมงมีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ทั้ง กุ้งกุลาดำ กุ้งขาว ปลาสวาย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า และสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคณะกรรมการสินค้าประมง ภายใต้กระทรวงเกษตร และพัฒนาชนบทของเวียดนาม ได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 เวียดนามจะส่งออกสินค้าประมงมากถึง 8.2 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจะส่งออกผลิตภัณฑ์ปลาสวายปริมาณ 1.42 ล้านตัน และผลิตภัณฑ์กุ้ง 860,000 ตัน ซึ่งคาดว่าการส่งออกสินค้าประมงเพิ่มขึ้นจะทำรายได้มากถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 6.3
ทั้งนี้ ในปี 2562 เวียดนามสามารถส่งออกสินค้าประมงได้สูงถึง 8.15 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 และมีมูลค่าการส่งออก 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าในปีนี้เวียดนามจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายในตลาดส่งออกสินค้าประมง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์โอกาสในการส่งออก จากประกาศยกเลิกใบเหลืองการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) ของคณะกรรมาธิการยุโรปให้แก่เวียดนาม และอุปสรรคทางการค้า เช่นสถานการณ์ผลิตภัณฑ์กุ้งราคาตกต่ำ ในช่วงเดือน มีนาคม – กันยายน 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวัตถุดิบจากตลาดคู่แข่งอย่างอินเดีย และเอกวาดอร์ และการมาตรการควบคุมคุณภาพ และตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์สินค้าประมงอย่างเข้มงวดของจีน ทำให้คณะกรรมการฯ เร่งประเมินศักยภาพ และแนวทางพัฒนาตลาดสินค้าประมงทันที เพื่อปรับทิศทางการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้ง ในขณะที่ ปลาสวาย และผลิตภัณฑ์สวาย คณะกรรมการฯได้มีการกำหนดให้หน่วยงานท้องถิ่นดำเนินมาตรการ เพื่อเพิ่มการตรวจสอบกระบวนการแปรรูป และการส่งออก
อนึ่ง ปี 2562 เวียดนามมีพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้ง 720,000 เฮกตาร์ สามารถผลิตกุ้งได้ 750,000 ตัน และมีพื้นที่เพาะเลี้ยงปลาสวาย 6,600 เฮกตาร์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน) สามารถผลิตปลาสวายได้มากถึง 1,420,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าการส่งออกได้สูงถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา : vietnamnews.vn สรุปโดย : มกอช.