TH EN
A A A

EVFTA เปิดโอกาสใหม่อุตสาหกรรมอาหารเวียดนาม

8 July 2562   

                สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เผยว่า การจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป (EVFTA) ช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าประมงและเปิดโอกาสการเข้าสู่ตลาดใหม่ของอุตสาหกรรมอาหารทะเลเวียดนาม
                แต่เดิมสินค้าประมงจากเวียดนามไปยังสหภาพยุโรปได้รับการจัดเก็บภาษีนำเข้าที่อัตราเฉลี่ย 14% และหลายชนิดที่ถูกกำหนดภาษีไว้มากกว่า 26% ซึ่งหาก EVFTA มีผลบังคับใช้ รายการสินค้าเกือบ 840 รายการที่ต้องเสียภาษีนำเข้าหรือคิดเป็น 50% ของสินค้าประมงทั้งหมด จะถูกลดภาษีลงจนเหลือ 0% ภายใน 3-7 ปี อย่างไรก็ตาม สินค้าประมงที่ได้รับการลดภาษีจะไม่รวม ทูน่ากระป๋องและผลิตภัณฑ์เนื้อปลาบดปรุงรส (ซูริมิ) แต่สหภาพยุโรปจะจัดสรรโควตาภาษีให้กับทูน่ากระป๋อง 11,500 ตันและผลิตภัณฑ์เนื้อปลาบด 500 ตัน
                ในส่วนของการส่งออกกุ้ง ปัจจุบันเวียดนามถือเป็นผู้ส่งออกกุ้งอันดับ 2 ด้วยปริมาณการส่งออกคิดเป็น 14% ของการส่งออกทั่วโลก ทั้งนี้ หากความตกลง EVFTA และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) มีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ภาษีนำเข้ากุ้งสดจากเวียดนาม รวมถึงภาษีกุ้งแปรรูปที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก CPTPP จะถูกตัดออก ทำให้VASEP คาดการณ์ว่าแนวโน้มการส่งออกกุ้งเวียดนามต่อจากนี้จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
                 ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าส่งออกกุ้งมูลค่ากว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2562 โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเป้าหมายหลักในการส่งออกกุ้งในมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 17.6% พร้อมทั้งคาดว่าความต้องการนำเข้ากุ้งของสหภาพยุโรปจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกเป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
                อนึ่ง การเข้าร่วมความตกลงทางการค้าทั้งสองฉบับของเวียดนาม จะเป็นการเปิดโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมกุ้งในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันกับอินเดียในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่ไม่ได้เข้าร่วม CPTPP และยังไม่ได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป

 

ที่มา : en.vietnamplus.vn สรุปโดย : มกอช. (30 June 2019)

Is this article useful?