สมาคมอุตสาหกรรมนมของจีนเผยว่า ตลาดนมในเมืองหลัก (first-tier cities) ของจีนกำลังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เช่น การขยายตัวของตลาดจำหน่ายนมคุณภาพสูงรวมทั้งยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตและชีส ส่งผลให้ชีสกลายเป็นสินค้าที่มีศักยภาพชนิดใหม่ต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนมในจีน สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารตะวันตกของประชาชนชาวจีนที่สะท้อนไปยังการผสมผสานวัตถุดิบระหว่างอาหารจีนและวัตถุดิบของตะวันตกในปัจจุบัน
ปริมาณการนำเข้าชีสของจีนบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าชีส 108,300 เมตริกตัน ซึ่งเกือบจะมากกว่าสามเท่าเทียบกับปี 2554 เฉพาะการนำเข้าชีสจากนิวซีแลนด์ 6,200 ตันในปี 2561 เพิ่มขึ้น 25.3% จากปี 2560 โดยโรงงานภายในประเทศจีนสามารถผลิตชีสบริโภคในประเทศได้เพียง 40,000 ตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ปัจจุบัน ชาวจีนบริโภคชีสเฉลี่ยเพียง 0.1 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ คนญี่ปุ่นเท่ากับ 2.4 กิโลกรัม เกาหลีใต้ 2.8 กิโลกรัม สหรัฐอเมริกา 15 กิโลกรัม และสหภาพยุโรป 18.6 กิโลกรัมตามลำดับ โดยประเทศสามอันดับแรกที่บริโภคมากที่สุด ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์
ในส่วนของการบริโภคผลิตภัณฑ์นมในรายปีต่อหัวของคนจีนนั้นมากถึง 36 กิโลกรัม มากกว่า 20 ปีที่ผ่านมาที่ระดับเพียง 6 กิโลกรัม แต่ปริมาณการบริโภคถือว่ายังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยครึ่งหนึ่งของเอเชีย และยังน้อยกว่า 1 ใน 3 ของค่าเฉลี่ยทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การผลิตชีส 1 กิโลกรัม ต้องใช้นมปริมาณ 10 กิโลกรัม แต่ด้วยราคานมในจีนที่สูงกว่าราคานมในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริการวมสองเท่า ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตชีสในจีนสูงกว่ามาก
ทั้งนี้ กฎหมายของจีนอนุญาตให้นำเข้าชีสในบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่และชีสที่ทำการตัดแต่งมาจากโรงงานต่างชาติ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ค้าในประเทศนำชีสขนาดใหญ่มาตัดแต่งสำหรับการขายด้วยเหตุผลความปลอดภัยอาหาร