เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Regulation (EU) 2019/229 มีสาระสำคัญว่าด้วยการแก้ไขเกณฑ์ทางจุลชีววิทยาในการตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์ในสินค้าพืชและอาหาร ดังนี้
1. คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นควรปรับ Regulation (EU) 2073/2005 ตามการพิจารณาปรับวิธีอ้างอิงและข้อกำหนดหลักเกณฑ์ทางจุลชีววิทยาของคณะกรรมการด้านมาตรฐานประจำสหภาพยุโรปและองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน ในส่วนของข้อกำหนดในการใช้วิธีอื่นๆ (alternative methods) ตามมาตรฐานอ้างอิงที่แก้ไข EN ISO 16140-2 และวิธีอ้างอิงใหม่สำหรับการตรวจหาเชื้อ Salmonella (EN ISO 6579-1) เชื้อ Cronobacter (EN ISO 22964) สารพิษ Staphylococcal Enterotoxin (EN ISO 19020) การตรวจจับและการหาปริมาณของ Histamine (EN ISO 19343) การนับปริมาณโคโลนี (colony count) ของแอโรบิก (EN ISO 4833-1) และวิธีการนับโคโลนีของ เชื้อกลุ่ม Enterobacteriaceae (EN ISO 21528)
2. กำหนดชื่ออ้างอิงชื่อเต็มของเชื้อ Salmonella 2 สายพันธุ์ (serotypes) คือ Salmonella enterica subsp. Enterica serotype Typhimurium และ Salmonella enterica subsp. Enterica serotype Enteritidis โดยเป็นไปตามข้อมูลทางวิชาการของ WHO (World Health Organisation Collaborating Centre for Reference and Research on Salmonella)
3. กำหนดหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยอาหารในอาหารพร้อมรับประทาน (ready-to-eat) ที่ไม่ส่งเสริมการเจริญของ เชื้อ Listeria monocytogenes ไม่ครอบคลุมถึงอาหารพร้อมรับประทานสำหรับเด็กทารกและอาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษทางการแพทย์
4. กำหนดให้เมล็ดงอก (sprouted seeds) ที่ส่งเสริมการเจริญของเชื้อ Listeria monocytogenes ต้องอยู่ภายใต้เกณฑ์ของอาหารพร้อมรับประทานที่สามารถส่งเสริมการเจริญของเชื้อ Listeria monocytogenes โดยไม่ครอบคลุมถึงอาหารพร้อมรับประทานสำหรับเด็กทารกและสำหรับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
5. น้ำผักและผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ (ready-to-eat) แต่ผ่านกระบวนการอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดหรือคล้ายคลึงกับการพาสเจอไรซ์เพื่อยับยั้งเชื้อ Salmonella และเชื้อ E. coli ไม่ต้องปฏิบัติตามภาคผนวก 1
6. อนุโลมระยะเวลาเปลี่ยนผ่านแก่ผู้ประกอบการอาหารในการใช้ current alternative methods เพื่อให้มีเวลาเพียงพอต่อการปรับวิธีการผลิตของตน ส่วนการปฏิบัติตามมาตรฐานเดิม ISO 16140:2003 ใช้ได้จนถึงสิ้นปี 2564
7. อนุโลมให้ผู้ประกอบการอาหารสามารถใช้วิธีตามระบุในมาตรา 5 ของ Regulation 2013/2005 ก่อนที่จะมีการแก้ไขมาตรา 1 ของ Regulation 2019/229 อย่างเป็นทางการ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป สรุปโดย : มกอช.
