รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และชนบทแห่งราชอาณาจักรเตือนภาคอุตสาหกรรมและเครื่องดื่มเกี่ยวกับผลกระทบของการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งการเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งรัฐสภาจะลงมติลงคะแนนไม่เห็นชอบแผนออกจากสหภาพยุโรปของนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ (Theresa May) ไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 ส่วนผู้ผลิตอาหารรับรู้ผลกระทบต่อภาคส่วนของตน โดยเฉพาะการสูญเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งออกไปยังประเทศเป้าหมายเดิม
จากผลการศึกษาของธนาคาร Barclays มีการเตือนว่าหลังจาก no-deal Brexit ภาษีเฉลี่ยของอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นถึง 27% มากกว่าภาคส่วนอื่น ๆ ที่มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 3-4% ซึ่งปกติแล้วร้อยละ 60 ของอาหารและเครื่องดื่มของสหราชอาณาจักรถูกส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปแบบปลอดภาษี แต่อัตราภาษีทั่วไปของ WTO จะส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อผู้ผลิตอาหารในสหราชอาณาจักร ขึ้นอยู่กับรายการภาษีสินค้า เช่น ชีส ที่จัดเก็บภาษีสูงถึง 40-50%
ในการนี้ ประธานสมาพันธ์อาหารและเครื่องดื่มได้กล่าวว่า no-deal Brexit จะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อภาคอุตสาหกรรม ทำให้อาจต้องมุ่งขยายการส่งออกไปยังจีนเป็นการชดเชย โดยสภาสามัญแห่งราชอาณาจักรรายงานเรื่องผลกระทบของ Brexit ปี 2561 ไว้ว่า จีน อินเดีย และอเมริกา จะเป็นโอกาสใหม่สำหรับการส่งออก นอกเหนือจากสหภาพยุโรป
โดยในปี 2560 อาหารและเครื่องดื่มของสหราชอาณาจักรที่ส่งออกจีนมีมูลค่า 567 ล้านปอนด์ (721.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นมา 29% จากปี 2559 สินค้าที่ส่งออกไปจีนมากที่สุดคือแซลมอน นอกจากนั้นยังมีเนื้อหมู นม ผงครีม วิสกี้ และเบียร์ นอกจากนั้นสมาพันธ์อาหารและเครื่องดื่มแห่งสหราชอาณาจักร (FDF) ได้กล่าวว่า จีนมีความสนใจสินค้า “Afternoon tea" เช่น แยม สโคน ชา เค้ก ของทางสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการออกอากาศของรายการโทรทัศน์ยอดนิยมของอังกฤษ เช่น Downtown Abbey และ The Great Britain Bake Of
ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพัฒนาการเกษตรและพืชสวน (AHDB) จัดทำแผนชี้แนะผู้ประกอบการค้าให้ติดต่อค้าขายกับจีน ญี่ปุ่น และอเมริกามากขึ้น โดยผลการสำรวจของ ADHB ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวจีนให้การตอบรับที่ดีต่อสินค้าของสหราชอาณาจักร แต่การทำการค้ากับตลาดจีนได้จะต้องมีเรื่องราวภูมิปัญญาในการผลิตสินค้า ความปลอดภัย และคุณค่าทางโภชนาการ ให้กับผู้บริโภคด้วย อย่างไรก็ตาม สภาสามัญชนแห่งสหราชอาณาจักรรายงานว่า สหราชอาณาจักรยังมีอุปสรรคต่อการทำการค้ากับจีน เนื่องจากสถานะการเจรจาเปิดตลาดส่งออกอาหารระหว่างกันยังไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร ทั้งนี้ ทางสภาฯแนะนำว่าให้ สหราชอาณาจักรพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนให้มากขึ้นเพื่อผลักดันการค้าให้บรรลุผลสำเร็จ
ที่มา : www.chinadaily.com.cn สรุปโดย : มกอช.