ตามที่คณะกรรมการพลังงานและสิ่งแวดล้อมแห่งสภาขุนนาง (House of Lords) ของสหราชอาณาจักรได้จัดทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสุขอนามัยพืชและสัตว์หลังสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งคณะกรรมการฯระบุว่าโรคพืชและสัตว์ และชนิดพันธุ์บุกรุกต่างถิ่นถือเป็นภัยต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการสกัดกั้นศัตรูพืชและพาหะนำโรคที่จุดผ่านแดนกว่า 300 ครั้ง
ปัจจุบันการตัดสินใจในการรับมือกับภัยต่อความปลอดภัยด้านชีวภาพนั้นอยู่ในระดับสหภาพยุโรป แต่สหราชอาณาจักรสูญเสียสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกหลังจาก Brexit เช่น การรวบรวมข้อมูลข่าวกรองของ EU ระบบเตือนภัยเกี่ยวกับโรค ระบบตรวจสอบการเคลื่อนย้ายของพืชและสัตว์ และความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างประเทศ เมื่อคำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และปริมาณการค้าและการเดินทางระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป จะพบว่าความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างกันเป็นสิ่งสำคัญ
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯได้ระบุว่าการออกจากสหภาพยุโรปนั้นจะส่งผลกระทบต่อระบบความปลอดภัยด้านชีวภาพของสหราชอาณาจักรในด้านต่างๆ ดังนี้
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการฯได้กล่าวว่าความปลอดภัยทางชีวภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากมาตรการต่างๆไม่เข้มงวดเพียงพอก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดและผลกระทบในด้านต่างๆได้ ซึ่งการออกจากสหภาพยุโรปนั้นจะทำให้มาตรการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพของสหราชอาณาจักรนั้นมีจุดบกพร่องและเกิดช่องว่าง ดังนั้นภาครัฐจะต้องพยายามอย่างหนักที่จะต้องวางแผนการทำงานที่สามารถพึ่งตนเองได้ให้ทัน Brexit คณะกรรมการฯผลักดันให้ภาครัฐมีความร่วมมือกับสหภาพยุโรปในด้านการแจ้งเตือนภัยเกี่ยวกับโรคและการเข้าร่วมเครือข่ายการใช้ข้อมูลร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯได้เสริมว่าการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปถือเป็นโอกาสสำหรับสหราชอาณาจักรที่จะพัฒนากฎหมายด้านความปลอดภัยทางชีวภาพให้มีความเข้มงวดมากขึ้นแต่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรีที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ที่มา: thepoultrysite สรุปโดย: มกอช.