นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ ได้วิจัยจากความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคกุ้งเลี้ยงในฟาร์มที่ EU นำเข้า ซึ่งการวิจัยใหม่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปลอดภัยเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์อาหารทะเลอื่นๆ โดยผู้เชี่ยวชาญได้สังเกตจากข้อมูลแบบสอบถามของสหภาพยุโรป (EU) ที่ทำการประเมินความเสี่ยงในการนำเข้ากุ้ง ชี้ว่าในกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่มระบุว่ากุ้งมีคุณภาพต่ำ แต่อย่างไรก็ตามจากผลการวิจัยอีกฉบับพบว่าการนำเข้ากุ้งเพื่อการบริโภคปลอดภัยมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในช่วงหลาบสิบปีที่ผ่านมานับตั้งแต่กุ้งฟาร์มนำเข้าวางจำหน่ายในร้านค้าในสหภาพยุโรปก็ได้มีความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม และสังคม รวมถึงกุ้งที่เลี้ยงในเขตร้อนซึ่งเจริญเติบโตในน้ำที่ปนเปื้อน และใช้เคมีในปริมาณที่มากจึงอาจนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ แต่รายงานล่าสุดทางผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสามารถประเมินความเสี่ยงของการนำเข้ากุ้งซึ่งจะช่วยให้สามารถคำนวณปริมาณวัตถุเจือปนอาหารที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ต่อวัน (The acceptable daily intake :ADI) ซึ่งข้อมูลจาก (The EU’s Rapid Alert System for Food and Feed :RASFF) ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าอาหาร และอาหารสัตว์ที่พบว่ามีปริมาณสารต้องห้ามหรือมีปริมาณมาก และถูกกักกันจากการนำเข้า หรือจำหน่ายในตลาด EU
โดยการคำนวณความเสี่ยงจากฐานข้อมูลของ RASFF ในช่วงปีพ.ศ. 2541 – 2558 พบว่าผู้บริโภคจะต้องรับประทานกุ้งมากกว่า 300 กรัมต่อวัน จึงจะเกินปริมาณของ ADI แต่อย่างไรก็ตามในผลการวิจัยยังระบุข้อสังเกตเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก RASFF มีข้อมูลเฉพาะกุ้งที่ปนเปื้อน ซึ่งถูกกักกันการนำเข้ามายังสหภาพยุโรป และไม่ได้นำมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงนั้นเอง
ที่มา: newfoodmagazine.com สรุปโดย: มกอช.