รัฐบาลเวียดนามอนุมัติบทลงโทษผู้ประกอบการอาหารที่ละเมิดกฎหมายความปลอดภัยอาหารให้รุนแรง ด้วยการเพิ่มค่าปรับขึ้นเป็น 3.5 เท่าจากคำสั่งเดิมในปี 2556 เพิ่มโทษปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 200 ล้านด่งเวียดนาม (192,000 บาทเงินไทย) หรือ 7 เท่าของราคาสินค้า โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม 2561
ผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับด้านสุขอนามัยพืชและสัตว์จะมีโทษปรับ 20 - 40 ล้านด่ง (28,000 – 56,000 บาท) และการใช้สารเคมีต้องห้าม สัตว์ที่ป่วยตายหรือถูกกำจัดเนื่องจากโรคระบาดสัตว์ในกระบวนการผลิตจะมีโทษปรับ 20 - 80 ล้านด่ง (28,000 – 113,000 บาท) สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านด่ง (14,000 บาท) หรือ 40 - 50 ล้านด่ง (56,000 – 71,000 บาท) สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านด่ง นอกจากนี้ ยังมีบทลงโทษในรูปแบบ เช่น การระงับการผลิตชั่วคราว การเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัยอาหาร และการยึดสินค้า ซึ่งอัตราความรุนแรงของบทลงโทษจะขึ้นอยู่กับระดับการละเมิดกฎหมาย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม (Vietnam Ministry of Health) เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบการมากถึง 68,000 รายที่ได้ละเมิดกฎหมายความปลอดภัยและสุขอนามัยอาหาร โดยภาครัฐได้ดำเนินการปรับผู้ผลิตที่ละเมิดกฎหมายคิดเป็นมูลค่ารวมถึงถึง 4.4 พันล้านด่ง (6 ล้านบาท) จากผู้ประกอบการ 1,600 รายเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2561
จากสถานการณ์ความปลอดภัยอาหารดังกล่าว ทางการเวียดนามจึงได้ริเริ่มจัดตั้งระบบแจ้งเตือนการละเมิดกฎหมายอาหาร (food violation reporting system) ในกรุงฮานอย ซึ่งจะเปิดตัวภายในปี 2563 โดยเจ้าหน้าที่รัฐกำหนดบทบาทให้ต้องรายงานระบบดังกล่าวทันทีไม่เกิน 2 ชั่วโมงเมื่อพบเหตุละเมิดกฎหมายอาหาร และในส่วนของปัญหาความปลอดภัยอาหารฉุกเฉินจะต้องได้รับการตรวจสอบและแก้ไขภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งระบบดังกล่าวจะแจ้งรายงานและการเตือนภัยไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินการกำกับดูแลและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา: www.navigator-asia.com สรุปโดย: มกอช.
