สภาท้องถิ่นรัฐนิวอิงแลนด์ของสหรัฐอเมริกาเตรียมออกกฎหมายห้ามจับกุ้งล็อบสเตอร์ใกล้แนวปะการังของจุดทำประมง 2 แห่งในอ่าวเมน หลังพบเป็นเหตุให้แนวปะการังแตกหักเสียหาย ส่งผลให้ชาวประมงมีต้นทุนสูงขึ้นเป็น 9 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โดยชาวประมงอ้างไม่เคยพบปะการังในเครื่องมือดัก และตามปกติจะเลี่ยงแนวปะการังเพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ทำประมง
กฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจะห้ามการจับล็อบสเตอร์ในเขตคุ้มครองปะการังพื้นที่ 49 ตารางไมล์ ครอบคลุมจุดทำประมง 2 แห่งในอ่าวเมน คือ Outer schoodic ridge และ Mount desert rock ที่เป็นแหล่งจับล็อบสเตอร์ที่เป็นที่นิยม และเป็นอาชีพหลักของประชากรในแถบดังกล่าว เนื่องจากนักวิจัยพบหลักฐานว่าดักจับล็อบสเตอร์สร้างความเสียหายให้แก่ปะการัง ส่งผลให้ชาวประมงต้องออกเรือไกลกว่าปกติและมีต้นทุนในการทำประมงเพิ่มสูงขึ้น
การจับกุ้งล็อบสเตอร์ของอ่าวเมนเป็นอาชีพที่มีมานานกว่า 150 ปี สร้างมูลค่าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โดยในปี 2552 ชาวประมงสามารถขายกุ้งได้ถึง 75.6 ล้านปอนด์
