อุตสาหกรรมไก่ของอินเดียเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ หลังสภาพอากาศร้อนฉุดผลผลิตลดลงกว่า 15% ประกอบกับนโยบายห้ามขายแอลกฮอล์ริมถนนหลวง ส่งผลให้ความต้องการบริโภคในประเทศลดลงรวม 40% ตั้งแต่เดือน เมษายน 2560 ที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมไก่เนื้อของประเทศอินเดียประสบวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังภาครัฐประกาศมาตรการ ห้ามจำหน่ายแอลกฮอล์ในร้านค้าในรัศมี 500 เมตร จากถนนหลวง ซึ่งมีความยาวรวมทั้งประเทศอินเดียกว่า 1 แสนกิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มีนาคม 2560 ทำให้ยอดจำหน่ายทั้งเครื่องดื่มแอลกฮอล์ อาหาร ตลอดจนถึงวัตถุดิบอาหารลดลงอย่างหนักทั่วประเทศ โดยคาดการณ์ของอุตสาหกรรมร้านอาหารจะสูญเสียรายได้กว่าปีละ 2 แสนล้านบาท
หลังจากราคาสินค้าลดลงอย่างหนักในระยะเวลาหนึ่ง ราคาวัตถุดิบอาหารทั่วประเทศค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตออกสู่ตลาดหลังผ่านช่วงฤดูร้อนของอินเดียจะต่ำกว่าปกติถึง 15-20 % ทำให้ราคาขายหน้าฟาร์มทั้งเนื้อไก่ ไข่ไก่ ตลอดจนปศุสัตว์อื่นๆ เพิ่มสูงขึ้นจนเป็นประวัติการณ์ เช่น ในเมืองปูเน่ของอินเดีย ราคาจำหน่ายไก่เนื้อหน้าฟารืมเพิ่มสูงขึ้นถึง 80 รูปี/กิโลกรัม จากที่ค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่เพียง 70 รูปี/กิโลกรัม หรือราคาไข่ไก่ที่เพิ่มจากฟองละ 2.98เป็น 3.16 รูปี/ฟอง ในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์แรกของเดือน พฤษภาคม
ทั้งนี้ ผู้ค้าอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของอินเดียคาดการณ์ว่าสถานการณ์ราคาสินค้าในประเทศจะค่อยๆ กลับสู่เสถียรภาพอย่างช้าๆ อาทิ ปัญหาจากการขาดแคลนผลิตภัณฑ์นมในท้องตลาด คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติภายใน 5-6 สัปดาห์
ที่มา: thepoultrysite.com สรุปโดย: มกอช.
