จากบทความเรื่อง Thailand : still holds promise as kitchen of the world ของ Tong Yee Siong ในคอลัมน์ Country in focus มีการนำเสนอเงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับอาหารฮาลาลส่งออก สรุปดังนี้
มีการผลักดันเรื่องนี้ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รัฐบาลลงทุนตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคระกรรมการกลางอิสลามฯ ยังมีปัญหาอีกหลายปัญหาที่ท้าทายไทยเช่น เรื่องการขาดการฝึกอบรมที่ดีพอในการผลิต เรื่องโลจิตติคส์ฮาลาล นอกจากนี้ 5 ปีที่แล้วรัฐบาลได้พัฒนา 5,000 เมตรพื้นที่เพื่อเป็นนิคมอาหารฮาลาลที่ปัตตานีแต่ไม่มีความคืบหน้าเพราะปัญหาความรุนแรงทางภาคใต้ สถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาลระบุว่ามีบริษัทได้รับฮาลาล 177 แห่งเท่านั้นเพื่อส่งออก นี่คือหตุผลว่าทั้งที่มีความมุ่งหวังที่จะเป็น Halal hub ของภูมิภาค แต่ทำไมจึงยังทำไม่ได้และไทยมีส่วนแบ่งในตลาดอาหารฮาลาลต่ำมากคือเพียง 0.25% ของตลาดอาหารฮาลาล
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำหรับการวส่งออกอาหารฮาลาลไทย ก็คือการที่ยูเออีมารับรองระบบอาหารฮาลาลของไทยในเดือนมิถุนายน 2550 หลังจากที่การส่งออกไก่ไทยไปยูเออีถูกระงับตั้งแต่ยูเออีออกระเบียบใหม่ หากยูเออีรับรองไทยย่อมหมายถึงไทยจะสามารถส่งออกไปยังประเทศสมาชิกกลุ่มอ่าวอาหรับ ซึ่งนายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองผู้อำนวยการ มกอช. ของไทยระบุว่ามีเป้าหมายการส่งออก 3.5 พันล้านบาทหรือ 106.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเป้าหมายการส่งออกไก่ของไทยทั้งหมด 3 แสนตัน 38 พันล้านบาท ( 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ที่มา : The Halal Journal