นายพรชัย ปิ่นวิเศษ อุปนายกและประธานกลุ่มผู้ผลิตข้าวโพดหวาน สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปเปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้มีมาตรการบังคับให้ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องทุกรายต้องเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ส่งผลให้มีผู้ส่งออกหลายรายขายตัดราคาในลักษณะต่ำกว่าต้นทุน จนเป็นสาเหตุสำคัญให้สหภาพยุโรปทำการเปิดไต่สวนและใช้มาตรการเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี)กับข้าวโพดหวานของไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในอัตรา 3.1-12.9%
ทั้งนี้จากผลกระทบที่ถูกอียูเรียกเก็บภาษีเอดีเพิ่มจากภาษีนำเข้าซึ่งต้องเสียปกติ 15% ได้ส่งผลให้การส่งออกข้าวโพดหวานของไทยไปสหภาพยุโรปลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ส่งออกจึงพยายามหาตลาดอื่นทดแทน ตลาดที่กำลังขยายตัวมากขณะนี้ ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสหรัฐฯซึ่งผลิตข้าวโพดหวานรายใหญ่ของโลกได้หันมานำเข้าจากไทยเพิ่มเนื่องจากสหรัฐฯลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดหวานลงไปปลูกข้าวโพดแทน
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าอยากให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศให้ผู้ส่งออกทุกรายต้องเป็นสมาชิกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ซึ่งจะทำให้ทราบต้นทุนแต่ละรายเพื่อนำมากำหนดราคาขายไม่ให้ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนด เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาขายต่ำกว่าต้นทุน เวลานี้ตลาดสหรัฐฯมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ไทยอาจถูกไต่สวนทุ่มตลาดอีกก็ได้
กรณีของสหภาพยุโรป มีเงื่อนไขที่จะผ่อนปรนไม่เรียกเก็บเอดีหากบริษัทส่งออกของไทยยอมรับเงื่อนไขส่งออกในราคาที่สูงขึ้น แต่มีข้อจำกัดต่างๆ เช่น บริษัทที่ส่งออกภายใต้แบรนด์ของลูกค้าในสหภาพยุโรปจะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นการเก็บเอดี โดยต้องเสียภาษีในอัตราเฉลี่ย 12.9% ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดข้าวโพดหวานของไทยไปสหภาพยุโรปเกือบสิ้นเชิง ยกเว้นบางบริษัทที่ผู้นำเข้าเป็นผู้รับภาระภาษีเอดีเองเนื่องจากผลผลิตข้างโพดหวานในสหภาพยุโรปไม่เพียงพอ