สหรัฐฯ ประกาศกฎหมายฉบับสมบูรณ์ว่าด้วย Seafood Import Monitoring Program ระบุเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ ความมั่นคงทางอาหารโลก การแบ่งปันทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการยกระดับการปฏิวัติภายใต้แนวทางการควบคุมการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU)
กฎหมาย Seafood Import Monitoring Program กำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้าประมงมายังสหรัฐฯ ต้องรายงานข้อมูล และจัดเก็บบันทึกข้อมูลการนำเข้าสินค้าประมงสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการประมงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้แก่
1. เป๋าฮื้อ (Abalone)
2. ปลาแอตแลนติกคอด (Atlantic Cod)
3. ปลาอีโต้มอญ (Dolphinfish/Mahi Mahi)
4. ปลาเก๋า(Grouper)
5. ปูคิงแครบ (King Crab (red))
6. ปลาแปซิฟิกคอด (Pacific Cod)
7. ปลากระพงแดง (Red Snapper)
8. ปลิงทะเล (Sea Cucumber)
9. ปลาฉลาม (Sharks)
10. กุ้ง (Shrimp)
11. ปลาดาบ(Swordfish)
12. ปลาทูน่า (สายพันธุ์ Albacore, Bigeye, Skipjack,Yellowfin, Bluefin)
โดยในวันที่ 1 มกราคม 2561 จะเริ่มบังคับใช้กับสินค้าประมงในกลุ่มดังกล่าว ยกเว้นกุ้งและเป๋าฮื้อที่ หน่วยงาน National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) จะประกาศวันบังคับใช้ภายหลังกำหนดข้อปฏิบัติการเก็บบันทึกข้อมูลการผลิตกุ้งเลี้ยงในสหรัฐฯ แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะมีการขยายการควบคุมจนครอบคลุมสินค้าประมงทุกสายพันธุ์
ทั้งนี้สหรัฐฯ จะจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับจากระบบ Seafood Import Monitoring Program มาไว้ในระบบ International Trade Data System (ITDS) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลกลางด้านการนำเข้าและส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อประโยชน์ต่อไป