ข่าววงในชี้ สหภาพยุโรปอาจยกเลิกการออกกฎหมายเพื่อควบคุมระดับของการปนเปื้อนสารอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ในอาหาร โดยแหล่งข่าวดังกล่าวระบุว่าเป็นผลจากการที่กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารในยุโรปพยายามเข้ามามีอิทธิพลในกระบวนการออกกฎหมายของสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ สารอะคริลาไมด์ เป็นสารที่ก่อตัวขึ้นและมักพบในปริมาณสูงในผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น มันฝรั่งทอด กาแฟสำเร็จรูป ขนมปัง และอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในอุณหภูมิสูง เช่น ทอด และอบ โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 หน่วยงานความปลอดภัยอาหารของสหภาพยุโรป (EFSA) ได้เผยแพร่ข้อคิดเห็นว่า สารอะคริลาไมด์อาจเพิ่มความเสี่ยงการก่อให้เกิดในมะเร็งในผู้บริโภคทุกวัยได้ และแนะนำให้ให้ระดับการรับสัมผัสสารดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้จัดกลุ่มให้สารดังกล่าว เป็นสารพิษร้ายแรง อีกด้วย ทั้งนี้ ในช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ยกร่างระเบียบเพื่อกำหนดมาตรการบังคับในการลดระดับการปนเปื้อนของสารอะคริลาไมด์ในอาหาร โดยข่าววงในระบุว่า กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารในยุโรปได้พยายามเข้ามาล๊อบบี้และเจรจาต่อรองเพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาของร่างระเบียบดังกล่าวให้คลายความเข้มงวดลง รวมทั้งกดดันไม่ให้สหภาพยุโรปประกาศใช้ระเบียบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม Euractiv สื่อใหญ่ด้านนโยบายในสหภาพยุโรป ได้ระบุว่า ผู้แทนสหภาพยุโรปแจ้งว่า สหภาพยุโรป มีกำหนดจะลงเสียงให้ความเห็นชอบต่อระเบียบดังกล่าวในปี 2560 จากเดิมที่มีแผนจะลงเสียงในช่วงเดือนตุลาคม/พฤศจิกายน 2559
ดังนั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วกลุ่มอุตสาหกรรมยุโรปจะเข้ามามีอิทธิพลในกระบวนการออกกฎหมายของสหภาพยุโรปได้มากแค่ไหน และระเบียบที่สหภาพยุโรปจะประกาศใช้ จะคุ้มครองสุขภาพผู้บริโภคได้ตามวัตถุประสงค์เดิม หรือปกป้องผลประโยชน์ของภาคอุตสาหกรรม