เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 สหภาพยุโรปได้ออกประกาศ Commission Regulation (EU) No 2016/324 ซึ่งเป็นการแก้ไข Annex II (Part A) ของระเบียบ EC No. 1333/2008 เกี่ยวกับรายชื่อวัตถุเจือปนที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ให้เพิ่มประเภทของอาหารใน Table 1 ของ Part A โดยหลังจากข้อที่ 12 ให้เพิ่มข้อที่ 13 อาหารสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ตาม Regulation (EU) No 609/2013 รวมทั้งอาหารพิเศษทางการแพทย์ สำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก
2. ให้แก้ Part E ของ Annex II หัวข้อประเภทอาหาร “0. วัตถุเจือปนอาหารที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารทุกประเภท” เปลี่ยนเป็น “0 วัตถุเจือปนอาหารที่อนุญาตให้ใช้อาหารทุกประเภท ทั้งนี้ ไม่รวมถึงอาหารสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ยกเว้นกรณีที่มีการอนุญาตไว้เป็นพิเศษ (except where specifically provided for)
3. เพิ่มชื่อวัตถุเจือปนอาหาร 11 รายการ “0. วัตถุเจือปนอาหารที่อนุญาตให้ใช้ใน อาหารทุกประเภทดังนี้
3.1 สาร Carbon dioxide อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.2 สาร PhosPhoric acid – phosphates-di-,tri- and polyphosphates อนุญาตให้ใช้ในปริมาณ 10,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม สามารถใช้กับอาหารที่มีลักษณะเป็นผงแห้ง
3.3 สาร Beta-cyclodextrin อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่จำเป็นเฉพาะอาหารอัดเม็ด และอัดเม็ดเคลือบ
3.4 สาร Silicon dioxide – silicates อนุญาตให้ใช้ในปริมาณ 10,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ในอาหารที่เป็นผงแห้งเท่านั้น
3.5 สาร Silicon dioxide – silicates อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เฉพาะอาหารอัดเม็ดและอัดเม็ดเคลือบ
3.6 สาร Argon อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.7 สาร Helium อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.8 สาร Nitrogen อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.9 สาร Nitrous oxide อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.10 สาร Oxygen อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
3.11 สาร Hydrogen อนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถใช้ในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
ทั้งนี้จะมีผลตามกฎหมาย 20 วันหลังจากที่ประกาศลงใน EU Official Joumal (ประกาศ ณ วันที่ 8 มีนาคม 2559) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://eur-lex.europa.eu/legalcontent/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32016R0324&from=EN
ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป สรุปโดย : มกอช.