ร่างกฎหมายเทคโนโลยีชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติของอูกันดา ได้รับการสนับสนุนจากนักวิจัยและนักกฎหมายในประเทศจำนวนมากที่เห็นว่ากฎหมายดังกล่าวจะสามารถควบคุมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนงานวิจัยภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
สำหรับประเทศอูกันดา การใช้ประโยชน์เทคโนโลยีชีวภาพมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศอย่างยิ่ง เช่น การใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์ของมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชอาหารที่สำคัญของทวีปแอฟริกา ที่ในปัจจุบันกำลังประสบปัญหาโรค Cassava Brown Streak DIsease หรือ CBSD ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสและทำให้ผลผลิตสูญเสียถึง 70% ในเขตที่มีการระบาดมาก
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลในการรับรองการพัฒนา ทดสอบ และใช้เทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรม รวมไปถึงการกำหนดหน่วยงานประสานงานหลักในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพภายในประเทศอูกันดาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สาธารณชนบางกลุ่มห่วงกังวลว่าเทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรมจะทำให้ราคาของเมล็ดพันธุ์เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกลุ่มต่อต้าน GMO ยังคงมีความวิตกกังวลเรื่องอัตราการงอกของเมล็ดพันธุ์ภายหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ทั้งนี้ ในฐานะที่อูกันดาเป็นประเทศที่ร่วมลงนามในพิธีสารคาร์ตาเฮนาซึ่งว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ การที่สามารถผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ จะถือเป็นการปฏิบัติตามกรอบความตกลงของพิธีสารดังกล่าวอีกด้วย
ที่มา : Daily Monitor (17/10/56)
