จากสถานการณ์ข้าวในจีนปนเปื้อนสารแคดเมียม โดยเฉพาะที่ปลูกจากมณฑลหูหนานซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของจีน ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีนอาจนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนข้าวที่ปนเปื้อน ซึ่งถือเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของเวียดนามและไทย รวมทั้งปากีสถาน ในขณะที่อินเดียอาจไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้เนื่องจากจีนจำกัดการซื้อด้วยเหตุผลความวิตกกังวลด้านคุณภาพ
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า จีนจะนำเข้าข้าวเพิ่ม 16% หรือคิดเป็นปริมาณรวมที่ 2.2 ล้านตัน โดยจะทบทวนประมาณอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งอาจทำให้จีนกลายเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกแทนที่ไนจีเรีย
ปัจจุบัน ราคาข้าวสารในเมืองกวางโจวของจีน สูงถึง 600 ดอลลาร์ หรือ 18,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ข้อเสนอซื้อขายข้าวคุณภาพชั้นเดียวกันจากเวียดนาม มีราคาต่ำกว่า 400 ดอลลาร์ต่อตัน ยังไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งความต้องการข้าวเป็นพิเศษจากจีนอาจเป็นตัวกำหนดราคาข้าวพื้นฐานในตลาดโลกให้แข็งแกร่งขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากมีการจัดหาล้นตลาด ซึ่งในช่วงสัปดาห์ก่อน ผู้ส่งออกข้าวจากเวียดนาม และผู้จัดหาข้าวหอมมะลิไทยชั้นดีได้ขึ้นราคาข้าวไปแล้วประมาณตันละ 5 ดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าจะมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้นจากจีน
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (29 พ.ค.56)
