TH EN
A A A

EU ปรับปรุงแก้ไขบัญชีรายชื่อแร่ธาตุที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอาหาร

13 December 2554   
                เ
มื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 สหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศกฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 1161/2011 of 14 November 2011 amending Directive 2002/46/EC of the European Parliament and of the Council, Regulation (EC) No 1925/2006 of the European Parliament and of the Council and Commission Regulation (EC) No 953/2009 as regards the lists of mineral substances that can be added to foods ใน EU Official Journal L 296 Volume 29 ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไขบัญชีรายชื่อแร่ธาตุ (mineral) ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอาหารได้

                ·       กฎระเบียบใหม่นี้เป็นกฎระเบียบกลาง ว่าด้วยการแก้ไขกฎระเบียบเดิมในเรื่องของการกำหนดบัญชีรายชื่อธาตุ (mineral) ที่สามารถใส่ในสินค้าอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากหน่วยงานความปลอดภัยอาหารประจำสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority: EFSA)ได้ประเมินบัญชีรายชื่อเดิมใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเพิ่มสารในกลุ่มสารดังต่อไปนี้

                ·       กลุ่ม ferrous phosphate เพิ่มเติมสาร
                                - ferrous ammonium phosphate
                                - ferric sodium EDTA

                ·       กลุ่ม sodium salts of orthophosphoric acid เพิ่มเติมสาร
                                - sodium sulphate
                                - potassium sulphate

                ·       กลุ่ม ferrous sulphate เพิ่มเติมสาร
                                - ferrous ammonium phosphate
                                - ferric sodium EDT

                ·       กลุ่ม chromium (III) sulphate and its hexahydrate เพิ่มเติมสาร
                                - chromium picolinate

                ·       หลักการทั่วไปของกฎระเบียบดังกล่าวผ่านการพิจารณาเห็นชอบจาก EFSA สภามนตรียุโรป และสภายุโรปแล้ว สำหรับรายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก
http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2011:296:0029:0030:EN:PDF


               
ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลตามกฎหมาย 20 วันหลังจากประกาศกฎระเบียบดังกล่าวใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที 15 พฤศจิกายน 2554)
 
 
ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป (13/12/54)
 
 
 
 
 

Is this article useful?