เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 นาง Mari Elka Pangestu รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียอาจเริ่มนำเข้าข้าวในเดือนกันยายน ปี 2254 เพื่อทำให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ ซึ่งตามปกติอินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวในเดือนกันยายนไปจนถึงการเก็บเกี่ยวข้าวครั้งใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีต่อไป ทั้งนี้อินโดนีเซียเพิ่งเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จสิ้นครั้งใหญ่ทั่วประเทศ
ปัจจุบันอินโดนีเซียมีข้าวสำรองประมาณ 1.5 ล้านตันในสำนักงานพลาธิการ (Bulog) และตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มข้าวสำรองให้ถึง 2 ล้านตันในปี 2554
อินโดนีเซียกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเข้าข้าวจาก 6 ประเทศ อาทิ เวียดนาม ไทย ปากีสถาน และ อินเดีย เวียดนาม และไทยมีข้อตกลงว่าจะจัดหาข้าวให้อินโดนีเซีย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าแต่ละประเทศจะจัดหาข้าวให้อินโดนีเซียจำนวน 1 ล้านตันต่อปี
สภาพอากาศย่ำแย่ทำให้การผลิตข้าวในอินโดนีเซียลดลงจากช่วงสิ้นปี 2553 ถึงเดือนมกราคม 2554 ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในรอบ 21 เดือนสูงถึง 7.02 % ในเดือนมกราคม แต่ภาวะเงินเฟ้อเริ่มบรรเทาในเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มการเก็บเกี่ยวข้าว และการเก็บเกี่ยวจะสิ้นสุดในเดือนเมษายน
ด้านข้าวสำรองสำหรับเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงที่อุปสงค์ข้าวมักสูง รัฐมนตรีกล่าวว่า จำนวนข้าวสำรองมีเพียงพอเป็นระยะเวลาหลายเดือน
นาย Bayu Krisnamurthi รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ในปี 2554 การผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 70.6 ล้านตัน จากปริมาณ 67 ล้านตันปีใน 2553