รัฐบาลนิวซีแลนด์แจ้งว่าอุตสาหกรรมผลกีวีมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (เกือบ 36,000 ล้านบาท) เสี่ยงเสียหายจากเชื้อแบคทีเรียระบาดที่ไม่เคยพบมาก่อนในประเทศ
สถานีวิทยุเรดิโอนิวซีแลนด์ รายงานว่า ผู้ปลูกผลกีวีเกรงว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียพีเอสเอ ซึ่งมีความร้ายแรงเปรียบเหมือนโรคปากเท้าเปื่อยในปศุสัตว์ ด้านนายเดวิด คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและป่าไม้ แถลงว่า ผลการตรวจยืนยันว่าไร่กีวีบนเกาะเหนือ ติดเชื้อพีเอสเอ ที่ทำให้ผลเน่าจากข้างในแล้วมีน้ำสีน้ำตาลไหลเยิ้มออกมา เชื้อนี้เสี่ยงกระทบการส่งออกผลกีวีของนิวซีแลนด์ที่ครองตลาดร้อยละ 30 อย่างไรก็ดี ขอให้ผู้ปลูกอยู่ในความสงบ อย่าเพิ่งแตกตื่น เขาไม่ทราบว่าเชื้อเข้าประเทศได้อย่างไร ผู้ประกอบการทั่วประเทศกำลังประชุมหารือมาตรการจำกัดการระบาด
ด้านกรมความปลอดภัยชีวภาพนิวซีแลนด์ เผยว่า โรคนี้ไม่เป็นอันตรายต่อคน พบครั้งแรกในญี่ปุ่น เมื่อ 25 ปีก่อน หลังจากนั้น พบในเกาหลีใต้ และอิตาลี ส่วนเซสปรี ผู้จำหน่ายผลกีวีรายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ระบุว่า อาจต้องขุดต้นกีวีติดโรคขึ้นมาเผาทำลายเพื่อควบคุมการระบาด ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะเกิดความเสียหายเพียงใด เพราะเชื้อพีเอสเอที่เคยระบาดในอิตาลี ทำให้ผลผลิตเสียหายไปถึงครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เสียหายน้อย ผลกีวีมีถิ่นกำเนิดในจีน ชาวนิวซีแลนด์นำมาปลูกและจำหน่ายตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20