เดือนตุลาคม 2553 อุตสาหกรรมจีนขยายตัว 54.8% สูงสุดในรอบ 6 เดือน นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เป็นผลจากความต้องการบริโภคภายในประเทศมากกว่าคำสั่งซื้อจากนอกประเทศ สะท้อนยุทธศาสตร์เพิ่มบริโภคในประเทศ-ลดพึ่งพาส่งออกกำลังได้ผล
ผลสำรวจดัชนีจัดซื้อของผู้จัดการ (PMI) ของจีนในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ผลผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งจัดทำโดย HSBC ระบุว่า เติบโต 54.8% สูงสุดในรอบ 6 เดือนและมากกว่าเดือนกันยายนซึ่งขยายตัว 52.9% เนื่องจากการผลิตสินค้าและคำสั่งซื้อใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ผลสำรวจ PMI ซึ่งจัดทำโดยสมาพันธ์ขนส่งและจัดซื้อของจีนระบุว่า PMI เดือนตุลาคมขยายตัว 54.7% จาก 53.8% ในเดือนกันยายน
นายชู ฮองบิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC ในฮ่องกง กล่าวว่า ดัชนีการผลิตที่ขยายตัวค่อนข้างสูงในเดือนตุลาคม เป็นเพราะความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่งเป็นหลัก ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้เงินเฟ้อของจีนในเดือนตุลาคมถึงจุดสูงสุด หลังจากขยายตัว 3.6% ในเดือนกันยายน มากที่สุดนับจากเดือนตุลาคม 2551 ทำให้ในเดือนที่แล้วธนาคารกลางได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ที่ระดับ 0.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่นายโจว เซี่ยว ชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้เตือนว่าความเสี่ยงจากการมีสภาพคล่องล้นเกิน เงินเฟ้อ, ฟองสบู่สินทรัพย์ และหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
รายงานข่าวระบุว่า ไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9.6% น้อยกว่าไตรมาสที่ 2 ซึ่งเติบโต 10.3% และ 11.9% ในไตรมาสแรก เนื่องจากรัฐบาลได้พยายามชะลอความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งของจีน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัว เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่งของจีนจะทำให้มีความต้องการบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยการบริโภคที่อ่อนแอลงในประเทศอื่น
ที่มา : มติชน
