สำนักงานเอพี รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้ กำลังแก้ปัญหากิมจิ ผักดองรสชาติเผ็ด ซึ่งถือเป็นอาหารประจำชาติและเป็นสัญลักษณ์ของเกาหลีใต้ในตลาดโลกขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้กิมจิมีราคาแพงมาก หลังจากสภาพอากาศที่เลวร้ายกินเวลายาวนานผิดปกติ ทำให้ผลผลิตกะหล่ำปลีนาปา ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในหลักในการผลิตกิมจิลดลงครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลกรุงโซล ซึ่งพยายามหาวัตถุดิบอื่นมาใช้ทดแทนกะหล่ำปลีดังกล่าว ได้ลดภาษีศุลกากรกะหล่ำปลีนำเข้าจากจีนในสัปดาห์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มปริมาณสำรองกิมจิตามซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกอื่นๆ 100 ตัน ในช่วงเดือนตุลาคมท่ามกลางภาวะที่ราคากิมจิทะยานอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บรรดาพ่อค้าและตัวแทนจำหน่ายกิมจิ ตั้งความหวังว่า ชาวเกาหลีทั้งประเทศจะผ่านพ้นวิกฤติกิมจิไปไดด้วยการหันมาบริโภคกิมจิที่ผลิตจากผักประเภทอื่นแทน เช่น หัวไชเท้า หรือหัวหอมเขียวหลังจากอุณหภูมิที่หนาวเหน็บในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดเพราะคลื่นความร้อนในช่วงฤดูร้อนและพายุฝนในช่วงเดือนกันยายน 2553 ส่งผลให้ผลิตกะหล่ำปลีนาปาลดลงถึง 40% เหลือเพียง 151,000 ตันในช่วง 9 เดือน จนถึงเดือนกันยายนเทียบกับผลผลิต 252,000 ตันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
กระทรวงเกษตรของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่าผลผลิตกะหล่ำปลีนาปาจะยังคงลดลงต่อเนื่องในปีนี้ พร้อมทั้งคาดว่าราคาผักชนิดนี้จะเคลื่อนไหวที่ 2,000 วอนต่อหัว ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ปีนี้ชาวเกาหลีบริโภคกิมจิประมาณ 1.45 ล้านตัน แยกเป็นกิมจิที่ผลิตจากโรงงานในสัดส่วน 450,000 ตัน ส่วนที่เหลือเป็นกิมจิผลิตจากบ้านหรือจากร้านอาหาร
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ