ประธานาธิบดี Barack Obama พยายามจะขีดเส้นตายเพื่อกำจัดอุปสรรคของข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับการรับรองจากสภาภายในปี 2554
สหรัฐฯ ลงนาม FTA ร่วมกับเกาหลีตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2550 แต่อยู่ในระหว่างรอความเห็นชอบจากสภาเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย แต่ทั้งนี้ ถูกชะลอไว้เนื่องจากสมาชิกสภาของสหรัฐฯ บางรายต้องการปรับปรุงข้อตกลงในบางส่วน เช่น รถยนต์
หาก FTA เป็นผลสำเร็จจะช่วยให้เนื้อสุกร และสินค้าเกษตรอื่นๆ วางจำหน่ายในตลาดเกาหลีมากขึ้น โดยเมื่อสิ้นช่วงเวลาในข้อตกลง FTA สหรัฐฯ จะส่งออกเนื้อสุกรไปเกาหลี 600,000 ตันซึ่งนับเป็น 2 เท่าของปริมาณที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันเป็นตลาดส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดของอุตสาหกรรมของสุกรสหรัฐฯ ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐฯ ต้องจ่ายภาษี 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อสุกร 1 ตัว ดังนั้นหาก FTA มีผลบังคับใช้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งออกสุกร 825 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2552 เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญเป็นอันดับ 5 ของสหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออก 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากการเจรจาสำเร็จจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกอีก 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 46% โดยสินค้าที่จะมีการเปิดตลาดหลังจากข้อตกลงมีผลบังคับใช้แล้ว 2 ปี ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลืองสำหรับบด หนังสัตว์ (hide) ฝ้าย
อนึ่ง เกาหลีใต้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงทางการค้าอื่นอีก 13 ฉบับกับ 50 ประเทศซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าด้านสินค้าเกษตรและอาหาร
FTA ระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เป็น 1 ใน 3 ฉบับที่กำลังยังคงค้างการพิจารณาจากสภาของสหรัฐฯ โดยอีก 2 ฉบับคือ FTA ที่สหรัฐฯ ทำกับโคลัมเบียและปานามา ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกมากกว่า 3 ปี
ที่มา:Meat and Poultry