เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่เคยมีมาตรฐานในการแบ่งประเภทของน้ำมันมะกอกตามกฎหมายมาก่อน ทำให้เกิดความหลากหลาย และก่อให้เกิดความสับสนต่อผู้บริโภค กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) จึงได้พยายามแบ่งประเภทน้ำมันมะกอกโดยใช้การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น น้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ (Extra virgin) ถือเป็นชนิดที่มีคุณภาพสูงที่สุด เนื่องจากให้กลิ่นที่ดีที่สุด มาตรฐานใหม่นี้จะช่วยให้สามารถแยกน้ำมันที่ดีที่สุดออกจากน้ำมันที่ถูกกว่าได้ ทั้งนี้ จะมีการบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวในเดือนตุลาคม 2553 ซึ่งเป็นเวลาในการเก็บเกี่ยวต้นมะกอก
มาตรฐานใหม่นี้จะใช้ค่าเฉพาะทางเคมีเพื่อบ่งชี้ความบริสุทธิ์และความสด รวมถึงส่วนประกอบของกรดไขมัน และการดูดกลืนแสงอัลตราไวโอเลต ซึ่งจะช่วยบอกถึงระยะเวลาในการเก็บรักษา
เมื่อปี 2546 สมาคมน้ำมันมะกอกแคลิฟอเนียได้มีการบังคับใช้การทดสอบคุณภาพของตัวเองกับสมาชิก เพื่อให้ได้ตรารับรองความบริสุทธิ์ชนิดพิเศษ (Extra virgin) โดยต้องได้คุณภาพตามข้อกำหนด รวมถึงการทดสอบความเป็นกรดและรสชาติ หลังจากนั้นไม่นาน สมาคมได้ร้องเรียนให้ USDA ยอมรับข้อกำหนดดังกล่าวเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากการแข่งขันกับสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่าหรือสินค้าที่มีราคาถูกกว่า แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำมันเนื่องจากไม่มีมาตรฐานมารองรับและผู้นำเข้าบางคนยังขาดความซื่อสัตย์
อนึ่ง สหรัฐฯ ปลูกมะกอกส่วนใหญ่ในรัฐ California และมีการเพิ่มจำนวนการผลิต 20% ต่อปี และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคว่าได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐานนี้จะมีความสอดคล้องกับคำจำกัดความของกลุ่มการค้าที่เป็นสากล