TH EN
A A A

มาตการห้ามนำเข้าของรัสเซียกระเทือนเพื่อนบ้าน

22 January 2550   

    
                มาตรการควบคุมนำเข้าของรัสเซียได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าดำเนินการโดยมีเป้าหมายที่ประเทศซึ่งมีข้อขัดแย้งอย่างรุนแรงทางการเมืองกับรัสเซีย  ทุกครั้งที่รัสเซียประกาศมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าครั้งใหม่จะกล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มนั้นๆปนเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืช โลหะหนัก หรืออื่นๆ  
 

             
การห้ามนำเข้าส่งผลประทบต่อผู้ผลิต  ยกตัวอย่าง เช่น มากกว่า
60%
ของปลาส่งออกของลัตเวียส่งออกไปตลาดรัสเซีย  มากกว่า
  60%
ผลิตภัณฑ์นมส่งออกยูเครนโดยเฉพาะชีสพึ่งพาตลาดรัสเซีย  จอร์เจียและมัลโดวาซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดของอดีตสหภาพยูเนียนและถูกรัสเซียห้ามนำเข้าไวน์พบความเสียหายอย่างรุนแรงกับการค้า  จึงมีการเจรจาอย่างเข้มข้นระหว่างผู้นำรัสเซียและมัลโดวา  คาด
ว่ารัสเซียจะยอมให้มัลโดวาส่งไวน์มารัสเซียได้อีกครั้งหนึ่งในปลายเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์  อย่างไรก็ตาม สำหรับการห้ามนำเข้าไวน์และสินค้าเกษตรอื่นๆจอร์เจียยังคงเหมือนเดิม  ผู้นำจอร์เจียจึงพยายามจัดนิทรรศการส่งเสริมการค้าไวน์ในประเทศอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งยูเครนและยุโรปตะวันออก  ซึ่งก็ได้ผลในยูเครน ปริมาณการนำเข้าไวน์จอร์เจียเพิ่มขึ้นมาก แต่ในประเทศยุโรปอื่นๆทั้งตะวันตกและตะวันออกถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
 
 

             
สหภาพยุโรปยังคงกล่าววิพากษ์รัสเซียที่ห้ามนำเข้าเนื้อโปแลนด์และขอให้รัสเซียชี้แจงเหตุผล  โดยระบุว่าผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านสัตว์แพทย์กล่าวว่าโปแลนด์ได้ดำเนินมาตรการสำคัญหลายประการในการยกระดับเรื่องการปศุสัตว์นับตั้งแต่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและมาตรฐานของโปแลนด์ปัจจุบันสูงกว่ารัสเซีย
 

              
ในกรณีของน้ำตาลบาบารุสซึ่งรัสเซียนำเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมของขบเคี้ยวและไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า  รัสเซียยุติการออกเอกสารศุลกากรที่ใช้ในการนำเข้าตั้งแต่วันที่
1
มกราคมท่ามกลางความขัดแย้งของสองประเทศเรื่องราคาพลังงานและภาษีผ่านแดน  โดยรัสเซียกล่าวหาว่าบาบารุสส่งผลิตอ้อยจากลาตินอเมริกามาโดยใช้สิทธิว่าเป็นอ้อยที่ปลูกในบาบารุสเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีนำเข้า  ผู้ผลิตน้ำตาลรัสเซียได้ล๊อบบี้อย่างหนักเพื่อให้รัฐบาลยังคงมาตรการจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำตาล
จากบาบารุส
 

อ้างอิง : 

BBC

Is this article useful?