Kang Jaw-Jou ผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาประกาศว่า ลิ้นวัวสหรัฐฯ ในทุกบรรจุภัณฑ์จะต้องได้รับการตรวจสอบ เพราะลิ้นวัวมีความเสี่ยงต่อโรควัวบ้าสูงขึ้น ซึ่งคำประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก USDA ประกาศจะส่งออกผลิตภัณฑ์จากวัวชำแหละที่อายุไม่เกิน 30 เดือนไปยังไต้หวัน ได้แก่ เนื้อติดกระดูก Hanging-tender ลิ้นวัว องคชาต ลูกอัณฑะ หาง เอ็น และกระบังลม ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 เป็นต้นไป โดยผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากสหรัฐฯ จะต้องยื่นคำขออนุญาตนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศไต้หวันก่อน แล้ว DOH จะดำเนินการตรวจสอบในลำดับต่อมา
ในขณะที่ส่วนอื่นๆ ให้ตรวจสอบ 5% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้ตรวจสอบเนื้อวัวติดกระดูกสหรัฐฯเมื่อก่อนหน้านี้ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสอดคล้องกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารด้วย
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันยังคงระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากวัวสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ กระโหลก สมอง ตา กระดูกสันหลัง เนื้อวัวสับ เครื่องใน และลำไส้ เป็นต้น หลังเมื่อเดือนตุลาคม 2553 ไต้หวันได้ลงนามข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่ออนุญาตให้นำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯมาในไต้หวัน ได้แก่ เนื้อวัวติดกระดูก เนื้อวัวสับ เครื่องใน แต่ถูกประชาชนคัดค้านอย่างรุนแรง สภานิติบัญญัติไต้หวันจึงปรับปรุงกฎหมายความปลอดภัยอาหารโดยยกเลิกการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อวัวดังกล่าวแทน