ในปี 2552 กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงมีมูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 30,000 ตัน โดยเป็นปลาสด 20,000 ตัน และปลาแปรรูป 10,000 ตัน เพื่มขึ้นจากปริมาณเดิมในปี 2551 ถึง 5,000 ตัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณผลิตภัณฑ์ประมงในประเทศ
รัฐบาลกัมพูชามีความพยายามที่จะทำให้ปริมาณผลิตภัณฑ์ประมงส่งออกและบริโภคภายในประเทศมีความสมดุลกัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นอาหารหลักของประเทศชนิดหนึ่ง ในปี 2552 กัมพูชาจับปลาได้ถึง 465,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 มากถึง 25% โดยเป็นปลาแม่น้ำถึง 390,000 ตัน และได้ส่งออกเพียง 25,000 ตัน ซึ่งมีมูลค่า 25 ดอลลาร์สหรัฐ โดยกัมพูชาได้ส่งออกปลาช้าง ปู กุ้ง กุ้งมังกร และปลาเก๋า ไปยังออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม
อนึ่ง ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ประมงกัมพูชาทั้งภายในและภายนอกประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยและเวียดนาม และมีบางบริษัทได้เริ่มจัดตั้งบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมง ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Canadian Nautisco Seafood Manufacturing จัดตั้งโรงงานแปรรูปกุ้ง ซึ่งมีมูลค่าถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จังหวัด Preah Sihanouk เมื่อเดือนกันยายน 2552 โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตกุ้งแช่แข็งให้ได้ถึง 30 ตันต่อวัน และจะส่งออกกุ้งเหล่านี้ไปยังแคนาดา ยุโรปตะวันออก ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐฯ
