TH EN
A A A

นับถอยหลัง อียูตรวจเข้มผักไทย

12 January 2553   
สหภาพยุโรปประกาศมาตรการใหม่ตรวจเข้มผักไทยโดยทำการสุ่มตรวจ 50% จากเดิมสุ่มตรวจ 10% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2553 โดยสหภาพยุโรปจะสุ่มตรวจผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลมะเขือ และถั่วฝักยาว ซึ่งทางสหภาพยุโรปจะดำเนินการมาตรการดังนี้
 
                   1. สุ่มตรวจ 50% ผักไทย 3 ประเภท (กะหล่ำ มะเขือ และถั่วฝักยาว) ณ ด่านนำเข้า
                  
                   2. สินค้าจะถูกกัก ณ ด่านนำเข้า จนกว่าจะได้รับผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ โดยด่านนำเข้าจะตรวจ สอบเอกสารให้เสร็จภายในระยะเวลา 2 วัน และจะส่งสินค้าไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด
 
                   3. ค่าใช้จ่ายของการตรวจสอบเป็นภาระของผู้นำเข้า
 
                   4. ต้องใช้แบบฟอร์มการนำเข้าตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ
               
                   สำหรับผักชนิดอื่นของไทยที่ส่งออกไปสหภาพยุโรปนั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะยังคงดำเนินการตามปกติคือ สุ่มตรวจเพียง 10% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปจะทำการทบทวนมาตรการนี้ทุก 4 เดือน ขึ้นอยู่กับรายงานผลการสุ่มตรวจ ตามรายงานผลการตรวจวิเคราะห์สารปราบศัตรูพืชตกค้าง โดยอาจจะเพิ่มหรือลดความเข้มงวดของมาตรการได้
               
                   ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรเข้มงวดและเพิ่มความระมัดระวังในการคัดเลือกผลผลิตจากแหล่งผลิตที่ได้รับมาตรฐาน GAP โรงคัดบรรจุที่ได้รับมาตรฐาน GMP แล้ว เท่านั้น และไม่ควรรับซื้อสินค้าจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน หากไม่แน่ใจสามารถส่งผลผลิตตรวจสอบได้ที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตร หรือห้องปฏิบัติการอื่นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วก่อนการส่งออกได้
               
                 
ซึ่งหากสามารถดำเนินการเข้มงวดก่อนส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง จะเป็นการประกันว่าผลผลิตที่ส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดสหภาพยุโรปไม่ได้ตรวจพบปัญหาสารตกค้าง ซึ่งจะนำไปสู่การลดการตรวจเข้มจากสหภาพยุโรปต่อไป
 
ที่มา: มกอช.

Is this article useful?