Roberto Giannetti da Fonseca ประธานสมาคมผู้ส่งออกบราซิลได้ออกมาเปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ว่า สหภาพยุโรปได้ผ่อนปรนกฎระเบียบให้แก่ผู้ส่งออกเนื้อวัวบราซิลตามโควต้าเนื้อวัว Hilton ทำให้โรงชำแหละของบราซิลสามารถส่งออกเนื้อวัว และทำกำไรได้มากขึ้น
สหภาพยุโรปอนุญาตให้บราซิลสามารถส่งออกเนื้อวัวที่ถูกเลี้ยงแบบจำกัดบริเวณได้ โดยจะต้องผ่านการรับรองว่าวัวที่จะส่งออกนั้นไม่มีโรควัวบ้าและอาหารที่เลี้ยงนั้นมีส่วนผสมของถั่วเหลืองและรำข้าวโพด ทั้งนี้ การอนุญาตดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมจากกฎระเบียบเดิมที่ให้บราซิลส่งออกมาได้เฉพาะวัวที่เลี้ยงตามทุ่งหญ้าเท่านั้น
อนึ่ง โควต้าเนื้อวัว Hilton คือ โควต้าของเนื้อวัวสด เนื้อวัวรมควัน และ เนื้อวัวแช่แข็ง ปริมาณกว่า 58,100 ตัน ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งโควต้าดังกล่าวรวมอยู่ในภาษี MFN (Most favoured Nation) ของสหภาพยุโรป ประเทศผู้ส่งออกเนื้อวัวดังกล่าวคือ อาร์เจนตินา บราซิล ปารากวัย สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยอาร์เจนตินาครอบครองปริมาณโควต้ามากที่สุด คือ 28,000 ตัน
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2552 บราซิลได้โควต้าจากสหภาพยุโรปเป็น 2 เท่า โดยเพิ่มจาก 5,000 ตัน เป็น 10,000 ตัน ซึ่งถือเป็นการชดใช้ค่าเสียหายหลังจากที่โรมาเนียและบัลแกเรียได้ระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากบราซิล
ที่มา : Meat Trade News Daily