TH EN
A A A

ไต้หวันแก้ไขระเบียบนำเข้าสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์

14 October 2552   
              
  ไต้หวันแก้ไขข้อกำหนดการตรวจกักกันเนื้อสัตว์ปีกนำเข้า  โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องแจ้งให้ไต้หวันทราบหากพบเนื้อสัตว์ปีกติดเชื้อ  ไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) ไข้หวัดนกสายพันธุ์ไม่รุนแรง (LPAI) และโรคนิวคาสเซิล (ND) ทั้งนี้ ร่างข้อกำหนดดังกล่าวกำหนดให้ประเทศที่ต้องการส่งออกเนื้อสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์ไปยังไต้หวัน จะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานรับรองผลิตภัณฑ์ของประเทศผู้ส่งออกว่าปลอดจากโรคทั้ง 3 ชนิด ไม่น้อยกว่า 90 วัน และต้องชี้แจงในใบรับรองคุณภาพประกอบการส่งออก     ขณะนี้ ระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552

               โดยสาระสำคัญของการแก้ไขระเบียบ ดังนี้

• ประเทศผู้ส่งออกต้องได้รับการรับรองจากไต้หวันว่าเป็นเขตที่ปลอดจากเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) และโรคนิวคาสเซิล (ND) 
o กรณีที่ประเทศส่งออกไม่ได้รับการรับรองว่าปลอดโรคND สัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการแปรรูปด้วยการผ่านความร้อน ณ จุดกึ่งกลางเนื้อสัตว์ปีก(core meat) ที่อุณหภูมิ 70OC เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที หรือผ่านกรรมวิธีอื่นๆที่สามารถทำลายเชื้อโรค  ND ได้

• ประเทศผู้ส่งออกต้องเฝ้าระวังโรค HPAI และโรคND  รวมทั้งไวรัส H5หรือ H7 หากพบการระบาดของโรคดังกล่าว ต้องหยุดการส่งออกชั่วคราวโดยทันที และรายงานรายละเอียดของสถานการณ์ให้ไต้หวันทราบ

• ประเทศผู้ส่งออกต้องยื่นข้อมูลระบบการตรวจสอบเนื้อ สำเนาใบรับรองการตรวจโรค ตราประทับรับรองจากประเทศผู้ส่งออก และหมายเลขทะเบียนโรงงานที่ผลิต แก่ไต้หวัน

• โรงงานที่ได้รับอนุญาตต้องเก็บข้อมูลด้าน สายพันธุ์ แหล่งกำเนิด วันที่ชำแหละและแปรรูป และปริมาณสัตว์ปีกของกระบวนการผลิตในแต่ละครั้ง   เป็นเวลา  2 ปีขึ้นไป และต้องตรวจสอบภายในโรงงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดเพื่อป้องกันการถอนสิทธิ์นำเข้าผลิตภัณฑ์

• กรณีประเทศผู้ส่งออกประสงค์ที่จะใช้เนื้อสัตว์ปีกที่มาจากประเทศที่สามนั้น ประเทศที่สามต้องได้รับการรับรองว่าปลอดเชื้อของโรค HPAI และโรค ND จากไต้หวัน

• สัตว์ปีกหรือเนื้อสัตว์ปีกต้องไม่ปนกับเนื้อสัตว์จากฟาร์มอื่น และต้องเก็บอย่างถูกสุขลักษณะระหว่างการขนส่ง และกระบวนการผลิต
 
• หากประเทศผู้ส่งออกไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ จะถูกระงับการนำเข้า
 
 
ที่มา : มกอช.

Is this article useful?