เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2549 รัสเซียประกาศระงับนำเข้าข้าวจกาทุกประเทศทั่วโลกเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่าสาเหตุเนื่องจากปัญหาคุณภาพข้าวนำเข้า ปัจจุบันรัสเซียนำเข้าข้าว 50% ของความต้องการบริโภคในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในเวลาไม่นานนักราคาข้าวจะเพิ่มขึ้น 100%
ประกาศจากหน่วยงานตรวจสอบสินค้าเกษตรของรัสเซียระบุว่า จะระงับการออกใบรับรองนำเข้ารัสเซียสำหรับธัญญพืชไม่ว่าจะมาจากประเทศใด และใบอนุญาตก่อนหน้านี้ก็จะยกเลิกไปด้วย หน่วยงานตรวจสอบระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2549 มีข้าวนำเข้าจำนวน 2,000 ตันซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น การพบข้าวมีกลิ่นเชื้อราจากปากีสถาน อินเดีย ไทย และอียิปต์ ข้าวเหลืองและหักในสัดส่วนสูงจากจีน ข้าวมีสารปนเปื้อนจากสเปน อุรุกวัย ไทย และข้าวปนเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืช chlorpyrifos
หน่วยงานตรวจสอบออกประกาศ"เป็นการชั่วคราว"โดยระบุว่าการบังคับใช้มาตรการเป็นการชั่วคราวนี้หมายถึงเมื่อมีคำสั่งเฉพาะจากหัวหน้าหน่วยงาน
ความต้องการบริโภคข้าวในรัสเซียในปี 2549 ประมาณ 700,000 ตัน มูลค่า 500-600 ดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยมีการนำเข้าประมาณ 400,000-450,000 ตัน รัสเซียนำเข้าข้าวเมล็ดยาวจากเวียดนาม ไทย อินเดีย และปากีสถานตามลำดับ ข้าวเมล็ดสั้นกลมซึ่งมีการปลูกในรัสเซียมีการนำเข้าจากจีน และอียิปต์ ผู้นำเข้าคาดว่าสาเหตุของการระงับนำเข้าข้าวนี้มี 2 สาเหตุ ประการแรก จากการล๊อบบี้ของผู้ผลิต-ค้าข้าวของรัสเซียเนื่องจากขณะนี้มีผลผลิตในสต๊อคแล้วซึ่งจะขายได้ราคาดี สาเหตุประการที่สอง เกี่ยวข้องกับการพยายามเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หน่วยงานตรวจสอบต้องการยังคงบทบาทในการควบคุมการนำเข้า
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามาตรการห้ามนำเข้าข้าวของรัสเซียนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดธัญญพืชรัสเซีย เนื่องจากข้าวนำเข้าส่วนใหญ่เป็นข้าวเมล็ดยาวซึ่งไม่มีการปลูกในรัสเซีย ราคาข้าวจะสูงขึ้น คาดว่าเพียง 1 สัปดาห์ราคาข้าวจะเพิ่มเป็น 20-40% สต๊อคข้าวที่มีอยู่ซึ่งเดิมคาดว่าจะพอเพียงถึงเดือนพฤษภาคม น่าจะพอเพียงแค่สิ้นเดือนนี้เท่านั้นหากยังไม่มีการนำเข้าข้าว ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น 100%
Kom. Moscow