หน่วยงานมาตรฐานอาหารนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย(FSANZ) ประกาศว่า ผู้ผลิตขนมปังของออสเตรเลียต้องใช้แป้งที่มีส่วนผสมของกรดโฟลิคเพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อโรคความผิดปกติของเส้นประสาท(Neural Tube Defects NTDs) ของทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด
ในเบื้องต้น นิวซีแลนด์จะเริ่มใช้บังคับใช้มาตรการนี้ร่วมกับออสเตรเลีย แต่นิวซีแลนด์ได้เลื่อนการบังคับใช้มาตรการนี้ออกไป เนื่องจากต้องการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม ในขณะที่ไอร์แลนด์ไม่ได้บังคับใช้กรดโฟลิคแต่พบว่าผู้ผลิตได้เริ่มใช้กรดโฟลิคโดยสมัครใจแล้ว
อย่างไรก็ดี มีการคาดหวังว่ามาตรการนี้จะสามารถลดการเกิดโรคความผิดปกติของเส้นประสาทของทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดได้ถึง 14% โดยใน1 ปีมี ผู้หญิงตั้งครรภ์ 300-350 คนเป็นโรคความผิดปกติของเส้นประสาทของทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด และโรคไขสันหลังส่วนล่างผิดปกติในทารก
Dr. Paul Brent นักวิทยาศาสตร์ของ FSANZ เปิดเผยว่า FSANZ อนุญาตให้ผู้ผลิตอาหารเติมกรดโฟลิคโดยความสมัครใจเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว ในอาหารหลายชนิด ได้แก่ ขนมปัง น้ำผลไม้ สารสกัดจากยีสต์ และ ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช อย่างไรก็ตาม กรดโฟลิคมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้การเติมกรดโฟลิคในอาหารไม่เป็นที่นิยม แต่มีหลายประเทศได้มีการใช้กรดโฟลิคแล้ว เช่น แคนาดา และสหรัฐฯ
Dr. Brent เสริมว่า การเติมกรดโฟลิคในขนมปังจะสามารถลดอัตราเสี่ยงต่อโรคไขสันหลังส่วนล่างผิดปกติในทารกได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้ผลิตขนมปังอินทรีย์จะได้รับข้อยกเว้นจากข้อบังคับการเติมกรดโฟลิค