มาเลเซียไฟเขียวนำเข้าโค-กระบือไทย คาดเริ่มส่งออกได้ราวกลางตุลาคมนี้ รับเทศกาลฮารีรายอ ด้านปศุสัตว์พร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่ให้ผู้ประกอบการไทย
สัตว์แพทย์หญิงฉวีวรรณ เลียววิจักขณ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มาเลเซียได้เตรียมเปิดตลาดซื้อขายโค-กระบือให้แก่ไทย โดยอนุญาตให้มีการนำเข้าโค-กระบือจากไทยได้ หลังจากได้ประกาศยกเลิกการนำเข้ามาเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี เนื่องจากตรวจพบการระบาดโรคปากเท้าเปื่อยในโค-กระบือส่งออกของไทย ซึ่งกรมปศุสัตว์ของมาเลเซียได้เชิญตัวแทนจากกรมปศุสัตว์พร้อมผู้ประกอบการของไทยเข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดเงื่อนไขและมาตรการในการนำเข้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าไทยจะสามารถส่งออกโค-กระบือไปยังมาเลเซียได้ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่มาเลเซียจะห้ามเข้าโค-กระบือจากไทยปี 2545 ไทยส่งออกโคเนื้อมีชีวิตไปมาเลเซีย 3,903 ตัว มูลค่า 46,404,000 บาท ส่งออกกระบือมีชีวิต 203 ตัว มูลค่า 3,195,000 บาท ส่วนปี 2546 มีการส่งออกโคเนื้อมีชีวิต 4,212 ตัว มูลค่า 50,277,000 บาท และส่งออกกระบือมีชีวิต 241 ตัว มูลค่า 3,615,000 บาท
สาเหตุที่มาเลเซียอนุญาตให้ไทยส่งออกโค-กระบือได้นั้น เนื่องจากผู้ประกอบการในมาเลเซียเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้มีการนำเข้าโค-กระบือจากไทย เนื่องจากในช่วงที่หยุดการนำเข้า ผู้ประกอบการในมาเลเซียต้องหันไปนำเข้าจากออสเตรเลีย ซึ่งราคาแพง และไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ประกอบกับในช่วงนี้ใกล้เทศกาลอารีรายอของชาวมุสลิม ที่จะมีการใช้โค-กระบือเพื่อประกอบในพิธีกรรมทางศาสนา จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าโค-กระบือเพิ่มมากขึ้น
สำหรับเงื่อนขการส่งออกโค-กระบือที่กำหนดร่วมกันในเบื้องต้นนั้น โค-กระบือไทยต้องมีการกักที่คอกของภาคเอกชน 21 วัน และกักที่ด่านกักกันสัตว์ของกรมปศุสัตว์ 10 วัน โดยในช่วงของการกักสัตว์จะต้องมีการเก็บตัวอย่างเลือดของโค-กระบือเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโรคปากเท้าเปื่อยด้วยว่าปลอดเชื้อหรือไม่ และเมื่อส่งไปยังมาเลเซียแล้ว ก็ต้องมีการกักที่ด่านมาเลเซียอีก 10 วัน รวมถึงการตรวจหาเชื้อไวรัสโรคปากเท้าเปื่อยด้วย ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องคอกกักสัตว์และเจ้าหน้าที่ตามด่านกักกันสัตว์เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกโค-กระบือไปยังมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จดหมายข่าวปศุสัตว์